CEO ชาญศิลป์ ตรีนุชกร กับกลยุทธ์ ‘3P’ ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

CEO ชาญศิลป์ ตรีนุชกร กับกลยุทธ์ ‘3P’ ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

      หลังเข้ารับตำแหน่ง CEO คนใหม่ของปตท. อย่างเป็นทางการ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร เปิดวิสัยทัศน์สานต่อการดำเนินงานตามกลยุทธ์ของ ปตท. โดยจะปรับปรุงการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งปัจจุบันและอนาคต เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

จากการดำเนินงานในปี 2561 ราคาน้ำมันและสินค้ากลุ่มปิโตรเคมีอยู่ในระดับดี ในเครือบริษัทก็มีผลกำไรอย่างต่อเนื่อง และได้เน้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เช่นการปลูกป่า โดยที่ผ่านมาได้เพิ่มพื้นที่ป่าให้กับคุ้งบางกระเจ้า 6 พันไร่ เพื่อให้คุ้งบางกะเจ้าเป็นสมบัติและความภาคภูมิใจของประเทศไทยตลอดไป

การจะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนจำเป็นต้องพัฒนาการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มภูมิคุ้มกันโดยยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินงาน เพื่อความมั่นคงทางพลังงาน และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศ คู่ไปกับการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมสังคมและชุมชน พร้อมทั้งส่งเสริมวัฒนธรรมการรักแล้วปลูกต้นไม้ แผนการดำเนินงานในปี 2562 กลุ่มบริษัท ปตท. มีแผน ’3P’ ประกอบด้วย

‘People’ การทำธุรกิจควบคู่กับการดูแลชุมชนและสังคม โดยเน้นการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วม สร้างคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจที่ดีแก่คนในสังคม ซึ่งได้ร่วมพัฒนาการศึกษาไทยด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผ่าน โรงเรียนกำเนิดวิทย์(KVIS) และสถาบันวิทยสิริเมธี(VISTEC) รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้พิการทางการได้ยินมีอาชีพและรายได้ ผ่านร้าน Café Amazon for Chance

‘Planet’ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มุ่งพัฒนาพลังงานทางเลือก เชื้อเพลิงสะอาด อย่างต่อเนื่อง ร่วมแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน โดยจัดหาน้ำมัน B20 ให้รถสาธารณะและร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ จาก ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง ปตท. และ ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์
‘Prosperity’ การเป็นฐานความมั่นคงให้แก่ภาคเศรษฐกิจและสังคมให้เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน ได้ลงทุนเพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติ นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ด้วยการขยายคลังรับ LNG (LNG Receiving Terminal) ส่วนเพิ่ม 1.5 ล้านตันต่อปี รวมเป็น 11.5 ล้านตันต่อปี ยังเน้นการเพิ่มมูลค่าให้วัตถุดิบปิโตรเลียมขั้นต้น โดยนำไปผลิต ปิโตรเคมีขั้นพื้นฐาน พัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่าง Bio chemical อีกทั้งธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ มีการแยกโครงสร้างธุรกิจเป็นบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (PTTOR) โดยยังมีการขยายธุรกิจ Oil และ Non-Oil ทั้งในประเทศ ประเทศใน AEC รวมถึงภูมิภาคอื่นๆ ตามโอกาส

“เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการดำเนินงานโดยยึดหลักหลักธรรมาภิบาล มุ่งเป็นองค์กรตัวอย่างของประเทศไทย จะนำพาเศรษฐกิจให้ก้าวหน้า เป็นประโยชน์ต่อคนไทยทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับชุมชน สังคม และประเทศ โดย ปตท. มีเป้าหมายคือ ปตท. ต้องเป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจ เน้นความโปร่งใส สู่ความยั่งยืน” นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร กล่าว

Share This: