NGV ตลาดโลกราคาเท่าไร?

ก่อนหน้านี้ผมได้อธิบายไปแล้วในหัวข้อเรื่อง NGV / CNG / LNG / ก๊าซธรรมชาติ ความเหมือนที่แตกต่าง สำหรับผู้ที่สนใจลองหาอ่านดูนะครับเพื่อเป็นพื้นฐานในการทำความเข้าใจในตอนนี้

สิ่งที่จะมาเล่าให้ฟังในตอนนี้คือราคาของก๊าซธรรมชาติ (ไม่ใช่ NGV) ตามแหล่งต่างๆทั่วโลกเท่าที่ผมพอจะหาข้อมูลมาได้ ว่ามีราคาเท่าไร เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า การนำก๊าซธรรมชาติมาใช้ในรถยนต์หรือ NGV นั้นไม่มีราคาตลาดโลก เพราะแต่ละประเทศจะขายโดยไม่มีราคากลางอ้างอิงแต่จะขึ้นอยู่กับต้นทุนของประเทศนั้นๆ เช่น ต้นทุนการสำรวจ ต้นทุนการผลิต ต้นทุนการบริหารจัดการ เช่น ต้นทุนขนส่ง โดยหากเป็นการขนส่งผ่านระบบท่อก๊าซจะมีต้นทุนต่อหน่วยที่ถูกกว่าการขนส่งโดยรถบรรทุกไปยังสถานีบริการ NGV

แต่ถ้าเป็นก๊าซธรรมชาติ (ย้ำอีกครั้ง ไม่ใช่ NGV นะครับ) นั้นมีราคาตลาดโลกครับ โดยราคาตลาดโลกของก๊าซธรรมชาติที่เขาซื้อขายกันนั้นไม่ได้คิดที่จำนวนหรือน้ำหนักของก๊าซธรรมชาติ ซึ่งต่างจากน้ำมันที่คิดราคาต่อลิตร หรือ ต่อบาร์เรล และ LPG ที่คิดราคาต่อตัน แต่เขาคิดราคาจากค่าความร้อนที่ก๊าซธรรมชาติให้ออกมา โดยหน่วยสากลที่ใช้กันคือ US$/Mmbtu หรือ เหรียญสหรัฐต่อ 1 ล้านบีทียู ลองดูตามลิ้งค์นี้นะครับเพื่อตรวจสอบราคาก๊าซธรรมชาติที่เขาซื้อขายกันตามแหล่งต่างๆในโลก http://www.bp.com/en/global/corporate/about-bp/energy-economics/statistical-review-of-world-energy-2013/review-by-energy-type/natural-gas/natural-gas-prices.html

เรามาดูกันที่ราคาเฉลี่ยในปี 2012 ของก๊าซธรรมชาติจากแหล่งต่างๆกันครับ

ญี่ปุ่น 16.75 US$/Mmbtu เยอรมัน 11.03 US$/Mmbtu สหราชอณาจักร 9.46 US$/Mmbtu สหรัฐอเมริกา 2.76 US$/Mmbtu และ แคนาดา 2.27 US$/Mmbtu

ผมอยากให้สังเกตสักอย่างนะครับว่าราคาก๊าซธรรมชาติจากแหล่งต่างๆที่อ้างอิงนั้นค่อนข้างต่างกันมาก คำถามคือ แล้วทำไมประเทศที่ก๊าซธรรมชาติมีราคาแพงจึงไม่ไปซื้อจากแหล่งที่มีราคาถูกกว่า? คำตอบคือพวกเขาไปซื้อไม่ได้ครับ เพราะราคาก๊าซธรรมชาติที่จำหน่ายในประเทศต่างๆเหล่านั้นเป็นราคาก๊าซธรรมชาติที่ขนส่งผ่านระบบท่อก๊าซภายในประเทศนั้นๆ สมมติสหราชอณาจักรอยากไปซื้อก๊าซธรรมชาติจากอเมริกาพวกเขาก็ต้องลงทุนสร้างท่อก๊าซจากอเมริกามุดใต้หมาสมุทรมาอังกฤษเลยทีเดียวซึ่งเป็นการลงทุนที่สูงมาก (อีกอย่างอเมริกาก็คงไม่อยากขายให้เพราะลำพังใช้เองในประเทศยังไม่พอเลย) ลองดูภาพประกอบนะครับ เป็นภาพระบบท่อก๊าซธรรมชาติของสหรัฐอเมริกา

จะมียกเว้นก็แต่ญี่ปุ่นที่หากเราอยากขอซื้อก๊าซธรรมชาติจากพวกเขาก็สามารถทำได้ เพราะราคาที่ญี่ปุ่นซื้อขายกันนั้นมันเป็นก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas: LNG) ซึ่งสามารถขนส่งมาทางเรือได้

เราลองมาดูกันครับว่าราคาก๊าซธรรมชาติจากแหล่งต่างๆในโลกนั้นเขาขายกันอยู่เมื่อคิดเป็นราคาบาทต่อกิโลกรัมแล้วถูกหรือแพงกว่าบ้านเรา? ซึ่งตองอาศัยความรู้เรื่องการแปลงหน่วยกันนิดหน่อยนะครับ

ก่อนอื่นเปลี่ยนราคาจาก US$/Mmbtu เป็น บาทต่อ 1 ล้านบีทียูก่อนครับ คิดที่ค่าเงินบาท ณ ปัจจุบัน คือ 32.35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

ดังนั้นราคาก๊าซธรรมชาติต่อความร้อน 1 ล้านบีทียูจากแหล่งต่างๆ คือ ญี่ปุ่น 541.86 บาท เยอรมัน 356.82 บาท สหราชอณาจักร 306.03 บาท สหรัฐอเมริกา 89.29 บาท และ แคนาดา 73.43 บาท

ต่อมาเราต้องมาดูว่าแล้วความร้อน 1 ล้านบีทียูดังกล่าวนั้นเท่ากับก๊าซธรรมชาติกี่กิโลกรัม จากข้อมูลอ้างอิง http://www.engineeringtoolbox.com/heating-values-fuel-gases-d_823.html  พบว่าก๊าซธรรมชาติ 1 กิโลกรัมให้ค่าความร้อนได้ประมาณ 39,000 – 49,000 บีทียู เพื่อความง่ายในการคำนวณ ผมขอนำค่าเฉลี่ยตรงกลางมาใช้นะครับคือก๊าซธรรมชาติมีค่าความร้อนเท่ากับ 44,000 กิโลกรัมต่อบีทียู

ตอนนี้ข้อมูลที่ต้องการทั้งหมดครบแล้วคือ ราคาก๊าซธรรมชาติเป็น บาทต่อ 1 ล้านบีทียู และ ค่าความร้อนของก๊าซธรรมชาติเป็น กิโลกรัมต่อ 1 ล้านบีทียู มาดูกันครับว่าราคาก๊าซธรรมชาติในแต่ละแห่งทั่วโลกเขาขายกันอยู่ที่กี่บาทต่อกิโลกรัมกัน?

ราคาดังกล่าวที่ผมแสดงให้เห็นนี้ไม่สามารถนำมาเทียบกับราคาจำหน่าย NGV 10.50 บาทต่อกิโลกรัมที่จำหน่ายในบ้านเราได้ เพราะราคาที่คำนวณออกมานี้เป็นราคาที่คิดจากการขนส่งในระบบท่อก๊าซอย่างเดียว ยังไม่รวมค่าขนส่งก๊าซไปยังสถานีบริการ NGV ค่าดำเนินการ หรือค่าการตลาด เป็นต้น อย่างไรก็ตามอย่างที่ผมบอกไว้แต่ต้นนั้นล่ะครับว่าต้นทุนก๊าซธรรมชาติของแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขของแต่ละประเทศและราคาก๊าซธรรมชาติไม่มีราคาตลาดโลกอ้างอิงเป็นราคามาตรฐานเหมือนน้ำมันดิบหรือก๊าซ LPG

พอดีผมลองหาราคาจำหน่าย NGV ของประเทศต่างๆทั่วโลก เลยพบข้อมูลตามภาพ จะเห็นว่าราคา CNG (หรือ NGV) ที่ขายในบ้านเรานั้นจัดอยู่ในกลุ่มที่มีราคาถูกเสียด้วยซ้ำ ไม่ได้มีราคาแพงจนติดอันดับโลกแต่อย่างใด

ที่มาข้อมูล ngvaeurope.eu/worldwide-ngv-statistics ตาราง Comparison of fuel prices Worldwide

Share This: