ข่าวการลักลอบขุดน้ำมัน สุดท้ายนายทหารที่ให้ข่าวโดนฟ้องเพราะให้ข้อมูลเท็จ

เป็นที่ฮือฮาพอสมควรกับข่าวว่ามีบริษัทลักลอบขุดน้ำมันดิบในพื้นที่ สปก รวมถึงไม่จ่ายค่าภาคหลวงมาตลอดระยะเวลาที่ลักลอบดังกล่าว

จากข่าวที่นำมาก็น่าตลกที่คนทำข่าวรายงานว่า “แหล่งน้ำมันดิบทั่วประเทศไทย ทั้งบนบกและในทะเล มีมากมายมหาศาลเท่ากับซาอุดิอาระเบีย” ซ้ำยังกล่าวหาว่า ปตท รู้เห็นเป็นใจกับการลักลอบขุดน้ำมันดังกล่าวด้วย ข้อเท็จจริงคืออะไรลองอ่านจากข่าวนี้ดู http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000071409

“บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส โชว์หลักฐานโต้ลักลอบขุดน้ำมันยันทำถูกต้องตามกฏหมาย 5 ปีที่ผ่านมาจ่ายผลตอบแทนให้รัฐเพียบ ทำหนังสือให้”คสช.”ตั้งคณะทำงานเข้าตรวจสอบเพื่อแสดงความโปร่งใส พร้อมเตรียมฟ้องร้องคดีอาญาเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง”พันโทรัฐเขต แจ้งจำรัส”ผู้กล่าวเท็จแต่ยังไม่คิดฟ้องสื่อ

นางสาวมนสิชา การุณยฐิติ ผู้จัดการฝ่ายบริหารและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากกรณีที่พันโท รัฐเขต แจ้งจำรัสที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการการพลังงานวุฒิสภาได้กล่าวหา บริษัทลักลอบขุดน้ำมันดิบโดยผิดกฏหมายระหว่างปี 2551-2555 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันถือเป็นข้อมูลที่เป็นเท็จโดยสิ้นเชิงทำให้เกิดความ เข้าใจผิดต่อสาธารณะชนและเสียหายต่อภาพลักษณ์บริษัทฯดังนั้นบริษัทฯจึงได้ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมไปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เพื่อให้เข้า มาตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็ว อีกทั้งเตรียมจะส่งเรื่องให้สำนักงานทนายความดำเนินการฟ้องร้องคดีอาญาข้อหา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง แก่ พันโทรัฐเขต แจ้งจำรัส ภายในสัปดาห์หน้า

” บริษัทฯมีความจริงใจจึงขอให้คสช.ตั้งคณะทำงานเข้ามาตรวจสอบได้เลยเพราะคิด ว่าน่าจะโปร่งใสที่สุด และจะยื่นฟ้องผู้ที่ดำเนินการกล่าวเท็จเป็นหลัก ส่วนกรณีโทรทัศน์ช่อง7รวมถึง TNN เป็นเพราะได้รับข้อมูลเพียงด้านเดียวเราเองก็จะได้ชี้แจงซึ่งเราเองยังไม่ คิดที่จะฟ้องสื่อดังกล่าว”น.ส.มนสิชากล่าว

ทั้งนี้ขอชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งหมด 3 ส่วนได้แก่ 1. บริษัทฯลักลอบขุดน้ำมันดิบ ซึ่งขอปฏิเสธข้อกล่าวหายืนยันว่าได้ทำตามขั้นตอนกฏหมายทั้งกรมเชื้อเพลิง ธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ตามที่ได้รับสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 3/2546/60 แปลงสำรวจบนบกหมายเลขL44/43 และสัมปทานเลขที่ 5/2546/62 แปลงสำรวจปิโตรเลียมบนบกหมายเลข L33/43 จากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ตั้งแต่ปี 2546 โดยมีพื้นที่สำรวจและผลิตปิโตรเลียมครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอวิเชียรบุรี และอำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ และได้รับการอนุญาตกำหนดให้เป็นพื้นที่ผลิต จากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ในปี 2552”

จริงๆ ปตท เองก็น่าจะฟ้องร่วมด้วยเพราะมีการให้ข่าวที่ว่า ปตท รู้เห็นเป็นใจกับการลักลอบขุดน้ำมันดังกล่าว ทั้งๆที่ความเป็นจริง ปตท เองก็มีบริษัท ปตท.สผ. ที่ทำธุรกิจผลิตและสำรวจอยู่และก็เป็นเพียงผู้รับสัมปทานรายหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่อะไรเลยในการควบคุมหรือให้สัมปทานก็เลยไม่รู้ว่าที่บอกรู้เห็นเป็นใจในการลักลอบขุดน้ำมันดังกล่าวนั้นคนให้ข่าวไปเอาข้อมูลมาจากไหนกัน

Share This: