ทักษิณเกี่ยวอะไรกับหุ้น ปตท.

ย้อนกลับไปในอดีตในวันที่ 1 ตุลาคม 2544 การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยได้แปรสภาพเป็นบริษัท ปตท. จำกัด มหาชน พร้อมที่จะดำเนินการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ แต่เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมาเสียก่อน นั้นคือเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544 หรือ 9/11 (ไนน์วันวัน) เป็นการการโจมตีพลีชีพที่ประสานกันสี่ครั้งต่อสหรัฐ ในนครนิวยอร์กและพื้นที่วอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 เช้าวันนั้น ผู้ก่อการร้าย 19 คนจากกลุ่มอิสลามจากฝั่งตะวันออกกลางอัลกออิดะฮ์จี้อากาศยานโดยสารสี่ลำ โจรจี้เครื่องบินนำเครื่องบินทั้งสองพุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนครนิวยอร์กโดยเจตนา และอาคารทั้งสองถล่มลงภายในสองชั่วโมง โจรจี้เครื่องบินชนเครื่องบินลำที่สามกับอาคารเพนตากอนในอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ส่วนเครื่องบินลำที่สี่ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 93 ตกในทุ่งใกล้กับแชงค์วิลล์ รัฐเพนซิลเวเนีย ก่อนถึงเป้าหมายที่โจรจี้เครื่องบินต้องการพุ่งชนอาคารรัฐสภาสหรัฐ ในวอชิงตัน ดี.ซี. หลังผู้โดยสารพยายามยึดเครื่องกลับคืน มีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คนในเหตุโจมตีดังกล่าวและไม่มีผู้รอดชีวิตจากเครื่องบินทั้งสี่ลำ (ที่มา : th.wikipedia.org/wiki/วินาศกรรม_11_กันยายน)

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นตกทั่วโลก หุ้นไทยที่ตกต่ำสุดขีดหลังวิกฤติอยู่แล้ว และก็ทำท่าว่าจะกระเตื้องเพราะมีข่าว IPO ของหุ้นปตท. แต่ก็กลับตกลงไปอีก SET Index ตกจาก 330 จุดในเดือนสิงหาคมลงไปอยู่แค่ 280 จุดตอนต้นเดือนตุลาคม 2544 แต่หลังจากปรึกษาหารือกันอย่างถ้วนถี่ ทางรัฐบาลก็ตัดสินใจเดินหน้าแปรรูป ปตท.ต่อ โดยเริ่มกระบวนการตั้งแต่ทดสอบตลาด – วางแผนการจำหน่าย – เดินสายให้ข้อมูลเบื้องต้น – รวบรวมความต้องการเบื้องต้น – แบ่ง Tranches ต่าง ๆ Roadshow ทั้งทั่วโลกและในประเทศ – Book building สถาบัน – กำหนดราคาขั้นสุดท้าย – เปิดให้ประชาชนจองหุ้น – แบ่งหุ้น (Allotment) ทั้งหมดเสร็จสิ้นปลายเดือน พ.ย. 2544 และหุ้นปตท. ก็เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 6 ธันวาคม 2544 ที่ปรึกษาทางการเงิน IPO ตอนนั้นมี บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ริล ลินซ์ ภัทร จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด

แบ่งหุ้นออกเป็น 2,800 ล้านหุ้น ในราคาวางแผนไว้หุ้นละ 35 บาท แต่ตอนนั้นกองทุนต่างประเทศได้รวมตัวกันกดราคารับซื้อเหลือเพียงหุ้นละ 31 บาท อ้างว่าราคาแพงไป ปตท. จึงปรับเปลี่ยนแผนหุ้นที่จะขายต่างชาติมารวมกันที่จะขายให้คนภายในประเทศแทน จึงขายหุ้นทั้งหมดได้ 35 บาท ณ มูลค่าของหุ้นที่ตราไว้อยู่ที่ 10.00 บาทต่อหุ้น

14 พฤศจิกายน 2544 ขายหุ้นหมดภายในเวลา 1 นาที 17 วินาทีจึงทำให้เป็นที่กล่าวถึงทุกวันนี้เรื่องการกระจายหุ้นไม่เป็นธรรม หุ้นที่กระจายให้ต่างชาติและคนในประเทศรวมกัน 800ล้านหุ้น (28.57%) แบ่งเป็น 4 กลุ่ม

กลุ่ม แรก หุ้นผู้มีอุปการคุณ 25 ล้านหุ้น (0.89%) กรรมการ ปตท. สามารถตัดสินใจให้ใครก็ได้

กลุ่มที่สอง ขายให้ผู้ลงทุนต่างประเทศ 320 ล้านหุ้น (11.4%) หุ้นกลุ่มนี้เชื่อว่า ฝรั่งหัวดำที่เป็นคนไทย โดยเฉพาะทุนการเมือง

กลุ่มที่สาม เป็นหุ้นสำหรับบุคคลทั่วไป 235 ล้านหุ้น (8.39%) สำหรับบุคคลทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเล่นหุ้นที่มีบัญชีอยู่กับโบกเกอร์อยู่แล้ว

กลุ่มที่สี่ จัดสรรให้ผู้จองซื้อรายย่อยในประเทศ 220 ล้านหุ้น (7.85%)

ปัจจุบัน 9 สิงหาคม2562 ราคาปตท.อยู่ที่ 44.25 บาท มูลค่าของหุ้นที่ตราไว้อยู่ที่ 1 บาท ถ้าเทียบจากเดิม 10 บาทจะเท่ากับราคา 442.50 บาท ซึ่งมีมูลค่าสูงขึ้น 1,200 เปอร์เซ็นต์ของราคา IPO ณ ปี 2544 ที่ 35 บาท

ผมได้เห็นบทความที่เขียนถึงการถือครองหุ้นปตท.ของดร.ทักษิณ ชินวัตร โดยมีการกล่าวอ้างถึงการถือหุ้นผ่านนอมินี ซึ่งผมขออธิบายคำว่า นอมินี ก่อนนะครับ นอมินีในการถือครองหุ้น ผมขอจำกัดความไว้ว่าการให้คนใกล้ชิด, ญาติของตนหรือคนที่สามารถควบคุมสั่งการได้ถือหุ้นแทนตนเอง และจะรวมถึงการแต่งตั้งสถาบันทางการเงินให้ดูแลกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเป็น ไพรเวทฟันด์ (Private Fund) ด้วย

โดยหากย้อนไปดูการถือครองหุ้นตั้งแต่ปี 2544 ที่ ปตท.เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ตอนนั้นกระทรวงการคลังถือครองหุ้นอยู่ 69.275% และมีชื่อของต่างประเทศถือหุ้นคือ Merrill Lynch (Singapore) Pte., Ltd. และ Merrill Lynch, Pierce, Fenner & Smith Incorporate. ถือหุ้นอันดับ 2 จำนวน 4.998% อันดับ 3 ก็เป็น Merrill Lynch Far East Limited. จำนวน 1.766 % รวมกันและก็ 11.762% และอันดับ 6 American International Assurance Co., Ltd. จำนวน 0.325% รวมกันที่เป็นอันดับต่างชาติจากรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก ก็มี 4 ชื่อที่กล่าวมารวมเป็น 338,100,000 หุ้น หรือ 12.087% ของหุ้นทั้งหมด

รายชื่อผู้ถือหุ้น ปตท 2544รายชื่อผู้ถือหุ้น ปตท 2562

 

ปัจจุบันกระทรวงการคลังถือหุ้นปตท.อยู่ 51.11% ซึ่งมีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่เป็นต่างประเทศอยู่ 4 รายคือ อันดับ 5 South East Asia UK(Type C) Nominees Limited. สัดส่วน 1.99% อันดับ 6 State Street Europe Limited. สัดส่วน 1.59% อันดับ 8 The Bank Of New York (Nominees) Limited. สัดส่วน 0.88% และอันดับ 9 GIC Private Limited. สัดส่วน 0.84% ซึ่งรวมแล้วเป็นจำนวน 1,516,347,277 หุ้น คิดเป็น 5.30% ของหุ้นทั้งหมด และถ้าหากนำ บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ที่ถือในสัดส่วน 7.26% จำนวน 2,073,795,273 หุ้น มาคิดด้วยก็จะเป็น 12.56% ซึ่งมากกว่าปี 2544 ไม่ถึง 0.50%

และหากมีการพูดว่า กองทุนต่างประเทศต่าง ๆ นั้นเป็นนอมินี ของดร.ทักษิณ ผมก็บอกได้เลยว่า ดร.ทักษิณ น่าจะมีเงินลงทุนมหาศาลมาก ๆ เกินหลักล้านล้านแน่นอนครับเพราะเพียงแค่ South East Asia UK(Type C) Nominees Limited. ถือครองหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ก็มากมายมหาศาลนับ 2 – 3 แสนล้านแล้วครับ ซึ่งผมนำข้อมูลจาก EfinanceThai.com มาให้ดูว่าแค่ปี 2562 South East Asia UK(Type C) Nominees Limited. ก็ถือครองหุ้นทั้งหมด 125 บริษัทแล้ว(ตามตารางที่แนบมาให้ดู) ฉะนั้นบอกได้เลยว่าแค่คน ๆเดียวจะลงทุนมากมายมหาศาลขนาดนี้คงแทบจะเป็นไปไม่ได้

การที่มีการผูกเรื่องของหุ้นปตท.เป็นของอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณคงเป็นเรื่องหวังผลทางการเมืองมากกว่าที่จะเป็นความจริง เพราะหุ้นปตท.เข้าซื้อขายในช่วงดร.ทักษิณเป็นนายกฯ หลังจากนั้นตัวดร.ทักษิณก็โดนเรื่องการครองถือหุ้นสื่อสารที่มีสัมปทานและขายให้ต่างชาติซึ่งนำไปสู่การประท้วงและยึดอำนาจตามมา และต่อให้ดร.ทักษิณมีการถือหุ้นจริง ๆ ตามหลักสากล อำนาจในการบริหารและควบคุมบริษัทก็ต้องเป็นไปตามผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่นั้นคือกระทรวงการคลังและหน่วยงานของรัฐบาลที่ลงทุนผ่านทั้งประกันสังคม, กองทุนวายุภักษ์, กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ ซึ่งรวมๆแล้ว สัดส่วนก็ไม่เคยต่ำกว่า 60% เป็นอย่างน้อยในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา การสร้างเรื่องขึ้นมาว่าการลงทุนในตลาดหุ้นได้ทั้งผลกำไรและเงินปันผลเป็นการทำนาบนหลังคนเพราะ บริษัท ปตท. เป็นหุ้นพลังงานขายทั้งแก๊สและน้ำมันซึ่งเป็นสิ่งที่คนใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน เป็นการแบ่งชนชั้นโดยใช้วลีที่ว่า คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น สร้างอารมณ์ร่วมเพื่อให้เกิดการเกลียดชังทั้ง ๆที่การลงทุนในหุ้นก็มีความเสี่ยงสูงนะครับ อาจจะดูเป็นการสรุปที่ง่าย ๆจากลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มต้นของปตท.ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อาจจะไม่สวยหรู มีข้อครหาในการกระจายหุ้น แต่อย่าลืมนะครับ หากวันนั้นไม่ทำแบบนั้นตอนนี้ปตท.อาจจะเป็นของต่างชาติไปแล้วนะครับ เพราะตอนนั้นประเทศเราไม่มีเงินแถมยังโดนฝรั่งบังคับให้ขายสินทรัพย์ในราคาถูกๆให้มันอีก และทุกวันนี้เราอาจจะไม่ได้ใช้น้ำมันที่ผลิตโดยคนไทยนะครับ.

Share This: