ปตท ปล้นสมบัติคนไทยหรือพลังงานไทยเดินมาถูกทางแล้ว

ฝากให้อ่านสำหรับคนไทยที่เกลียดบริษัทน้ำมันของคนไทยที่ชื่อว่า “ปตท” จนเข้าไส้

พอดีวันก่อนไปเดินร้านหนังสือมือสองมา เจอหนังสือเก่ามาก ราคาหน้าปก 10 บาท ชื่อหนังสือ “ใครคุมน้ำมันโลก” โดย “เทพ จุลดุลย์” ฉบับพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ เมษายน 2518

เนื้อหาในเล่ม โดยคร่าวๆบอกว่า

“บริษัทน้ำมันใหญ่ในไทย 3 รายในปี 2499 นั้นคือ เชลล์, สแตนดาร์ด และคาลเท็กซ์ ซึ่งล้วนเป็นยักษ์ใหญ่ในอาณาจักรน้ำมันที่คุมธุรกิจนี้ทั่วโลก ประเทศไทยได้ถูกอำนาจอิทธิพลของยักษ์ใหญ่น้ำมันบีบบังคับ ทั้งทางการทหารและการเมืองด้วยความช่วยเหลือรัฐบาลจักรวรรดินิยมตะวันตกดังที่เคยสำแดงเดชในประเทศต่างๆมาแล้ว

รายงานจากวารสาร “เศรษฐสาร” เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2499 ได้กล่าวว่า “ในขณะที่ทหารอังกฤษอเมริกันเข้ามาเต็มเมืองเพื่อปลดอาวุธ บริษัทค้าน้ำมันก็ได้กลับมาเสนอขอซื้อโรงกลั่นน้ำมันในเชิงบังคับ รัฐบาลก็ต้องยอมขายโรงงานและทรัพย์สินอุปกรณ์หลายสิบล้านบาทให้บริษัทเชลล์และบริษัทสแตนดาร์ด แวคคั่ม ออยล์ (ซึ่งต่อมาคือเอสโซ่) ด้วยราคาเพียง 8 ล้านบาท บริษัทยังได้ยื่นสัญญาขอเช่าที่ช่องนนทรี 300 ไร่ในอัตราค่าเช่าตารางวาละ 1 บาทต่อปี สัญญาเช่าอายุ 30 ปี ตามนัยแห่งสัญญายังต้องให้เช่าบริการทางรถไฟ ที่เทียบท่าจอดเรือและบริการในบริเวณที่ดำเนินงานซึ่งเดิมเป็นของรัฐบาลให้แก่บริษัท”

หลังจากที่มีการทำสัญญาไม่นานนัก ความต้องการน้ำมันในประเทศไทยได้ทำให้รัฐบาลได้ติดต่อขอให้บริษัทน้ำมันเชลล์และสแตนดาร์ดรีบส่งน้ำมันเข้ามาขายโดยเร็ว บริษัททั้งสองได้ใช้โอกาสนี้เสนอข้อต่อรองที่ส่อให้เห็นเล่ห์กลบีบบังคับ โดยมีข้อแม้ว่ารัฐบาลไทยจะต้องให้หลักประกันและคำมั่นว่า

  1. เมื่อเอาน้ำมันมาจำหน่ายแล้ว กรมเชื้อเพลิงต้องหยุดขาย นอกจากบริการให้กับหน่วยราชการเท่านั้น
  2. ถ้ามีองค์การใดตั้งขึ้นเพื่อการค้าน้ำมันแล้ว ห้ามเจ้าหน้าที่หรือกรรมการของกรมเชื้อเพลิงดำเนินการในองค์การนั้น
  3. ถ้าหากมีบริษัทใดตั้งขึ้นเพื่อค้าขายน้ำมัน ห้ามรัฐบาลและองค์การของรัฐบาลถือหุ้น

การปฏิบัติเช่นนี้เป็นการบีบบังคับรัฐบาลโดยไม่เป็นธรรม แทนที่รัฐบาลผู้บริหารประเทศจะเป็นผู้กำหนดและควบคุมกิจการการค้า แต่กรณีนี้บริษัทน้ำมันทั้งสองจะเป็นผู้กำหนดและบังคับ

 

ตัดมาจากหนังสือ “ใครคุมน้ำมันโลก” โดย “เทพ จุลดุลย์” ฉบับพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ เมษายน 2518

สิ่งที่อยากจะสื่อก็คือ สำหรับคนไทยที่ปากบอกว่ารักชาติเสียเต็มประดา และเกลียด ปตทจนเข้าไส้ บอกว่าไอ้ปตท มันปล้นสมบัติคนไทย มันเป็นบริษัททุนสามานย์ ก็ลองอ่านดูแล้วกันว่าบริษัทฝรั่งที่มันทำกับประเทศอื่นๆมาทั่วโลกนี่มันดูดีกว่า ปตท ยังไง?

กว่า ปตทจะมีวันนี้ได้ต้องสู้กับการกดขี่ข่มเหงของบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติเหล่านั้น จนกลายมาเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติ (ที่หลายคนพยายามสาดสีแปะป้ายว่า “ขายชาติ” บ้าง “ทุนสามานย์” บ้าง “ปตท ปล้นสมบัติคนไทย” บ้าง) ที่ต่อสู้กับยักษ์ใหญ่เหล่านั้นได้ และคอยต่อรอง ต่อกร ช่วยต้านทานกระแสของบริษัททุนนิยมข้ามชาติ

ใครจะว่ายังไงก็แล้วแต่ แต่ว่าถ้าลองไม่มีปตท ประเทศไทยจะน่าสงสารกว่านี้อีก เงินที่เราจ่ายไปแทนที่จะปันผลกลับมาเป็นดอกเป็นผลให้กับประเทศบ้าง แต่ต้องถูกบริษัทฝรั่งมันโกยกำไรไปกินจนพุงกาง

หรืออีกกรณีหนึ่งคือ ลองให้ ปตท กลับมาเป็นของประชาชนตามพวกที่เย้วๆตามกันไป (พอถามว่าเอากลับมาแล้วไงต่อ ก็ไม่เห็นจะตอบได้สักคน) ลองนึกดูสิว่าคุณพอใจการรถไฟไทยที่เป็นของประชาชน 100% กันแค่ไหน คราวนี้ล่ะ ปั๊มคงเน่า ห้องน้ำโสโครกน่าดูชม แล้วพวกที่เย้วๆกันเมื่อกี้จะเอาห้องน้ำฟรีและสะอาดน่าเข้าที่ไหนไว้ปลดทุกข์กันล่ะ?

Share This: