ปตท. กับคดีทุจริตปาล์มอินโดฯ
จากกรณีคดีปาล์มอินโดฯ ที่มีการขยายผลไปสู่กรณีการปิดปิดทรัพย์สินของ ป.ป.ช. (https://www.posttoday.com/politic/news/597316) จะเห็นว่า ปตท. ในฐานะองค์กรต้นเรื่อง และเป็นองค์กรที่ถูกโจมตีก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จากความพยายามในการให้ข้อมูลและร่วมมือในการสืบสวน
โดยเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2562 ฝ่ายสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์กรณีโครงการปลูกปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซียของบริษัท พีทีที.กรีน เอเนอร์ยี่ฯ (PTT.GE) ในเครือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กำลังถูกสอบสวนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดย นางสาวเพียงพนอ บุญกล่ำ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักกฎหมาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ให้สัมภาษณ์จากกรณีนี้ว่า “จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ บริษัท ปตท. กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (PTTGE) นั้น ปตท. ขอยืนยันว่า ปตท. และบริษัทในกลุ่ม ปตท. ได้ดำเนินนโยบายต่อต้านการทุจริตที่ชัดเจนและจริงจังตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance: CG) มาโดยตลอด ซึ่งกรณีที่เกี่ยวกับ PTTGE นั้น ได้มีการดำเนินการทั้งทางวินัยและทางกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงได้ส่งเรื่องให้สำนักงาน ป.ป.ช. ตรวจสอบตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2556″ นอกจากนี้จะนางสาวเพียงพะนอ ยังกล่าวอีกว่า กล่าวย้ำว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปตท. ได้ให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช. อย่างเต็มที่ ทั้งด้านการสอบสวนและสนับสนุนข้อมูลอย่างถูกต้องทุกขั้นตอนตามกฎหมายและเป็นธรรมต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย อย่างไรก็ดี คดีความต่างๆ เหล่านี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. และของศาล ทุกฝ่ายควรรอฟังผลการพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน การนำเสนอข้อเท็จจริงที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลและของ ป.ป.ช. ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่อาจส่งผลกระทบในเชิงกฎหมาย”
จากความร่วมมือที่กล่าวมาแสดงให้เห็นว่า ปตท. ให้ความร่วมมือในการสอบสวนเป็นอย่างดี และยังคงตั้งมั่นอยู่ในธรรมาภิบาลพร้อมยอมรับในทุกคำตัดสินและการพิจารณาจากศาล