หยุดสัมปทาน เปิดทางบรรษัทพลังงานแห่งชาติ
เป็นเรื่องวุ่นวายอยู่ในแวดวงพลังงานหลังจาก ที่มีกลุ่ม คปพ. ออกมาคัดค้าน พรบ. ปิโตรเลียม และ พรบ. ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ซึ่งเนื้อหาสาระสำคัญคงไม่พ้นการเปลี่ยนระบบจากสัมปทานมาเป็นระบบจ้างผลิต และเปิดทางให้กับบรรษัทพลังงานแห่งชาติเข้ามามีบทบาทใหญ่ ซึ่งไม่รู้ว่าการพยายามหยุดสัมปทานในครั้งนี้ จะเกิดผลเสียอย่างไรในอนาคตบ้าง
สาระสำคัญที่จะพูดถึงเรื่องการหยุดสัมปทานในครั้งนี้คงหนีไม่พ้น “บรรษัทพลังงานแห่งชาติ” ซึ่งเป็นความพยายามของกลุ่มคนที่อ้างตัวว่าเป็นภาคประชาชน เพื่อเข้ามามีตำแหน่งและบทบาทในการตัดสินใจเรื่องปิโตรเลียมทั้งหมดในประเทศ และหากจะถามว่าบรรษัทพลังงานแห่งชาติมีผลดีผลเสียอย่างไร ขอหยิบยกตัวอย่างกระทู้หนึ่งใน pantip ซึ่งเป็นการพูดถึงเรื่องราวของการหยุดสัมปทานบรรษัทพลังงานแห่งชาติ ได้น่าสนใจ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
หยุดสัมปทาน | บรรษัทพลังงานแห่งชาติ มันจำเป็นสำหรับประเทศเรามากไหมครับ?
“จะว่าไปแล้ววงการพลังงานนี่ก็มีเรื่องสนุกๆ ให้เราได้ติดตามกันอยู่เรื่อยๆ เหมือนกันนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทวงคืนน้ำมัน ทวงคืน ปตท. ทวงคืนท่อก๊าซ ทวงกันจนเป็นมหากาพย์ยาวเรื่องยาว ลามมายันเรื่องระบบสำรวจและผลิต จนกระทั่งล่าสุดก็ได้มีการเสนอให้จัดตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติขึ้น
อ่าวๆ แล้วเจ้าบรรษัทพลังงานแห่งชาตินี้มันคืออะไร และมีไว้ทำไม
จากตามข้อเสนอของกลุ่มคนที่บอกว่ามาจากภาคประชาชนเค้าเสนอให้มีการจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ (National Oil Company) โดยกำหนดคาแรกเตอร์ ให้มีฐานะเป็นตัวแทนของรัฐ ดำเนินการเกี่ยวกับการให้สิทธิ การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมอย่างเบ็ดเสร็จและครบวงจร คณะกรรมาธิการได้เสนอให้มีการตรากฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ ให้บรรษัทน้ำมันแห่งชาติเป็นผู้มีสิทธิเพียงรายเดียวในการสำรวจและให้สิทธิเกี่ยวกับปิโตรเลียม ในการดำเนินการบริหารจัดการปิโตรเลียมและการบังคับบริษัทเอกชนในฐานะคู่สัญญา
นอกจากนั้นยังกำหนดให้บรรษัทน้ำมันแห่งชาติมีสภาพนิติบุคคลและมีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ เพื่อให้การบริหารจัดการสัญญาที่เกี่ยวกับปิโตรเลียมไม่อยู่ภายใต้กฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการพัสดุของส่วนราชการ หรือกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนกับรัฐ
บรรษัทน้ำมันแห่งชาติ จะเป็นผู้ถือสิทธิทรัพยากรปิโตรเลียมแทนรัฐในการสำรวจและแสวงหาประโยชน์จากปิโตรเลียม ควบคุมดูแลระบบการสำรวจและแสวงหาประโยชน์ในปิโตรเลียมทั้งหลาย และมีหน้าที่ในการบริหารสัญญาสัมปทาน สัญญาแบ่งปันผลผลิต และสัญญาจ้างผลิต
หากพิจารณาตามข้อเสนอดังกล่าว จะเห็นได้ว่าได้มีการรวมเอาบทบาทของทางราชการในฐานะผู้ให้สิทธิการสำรวจ ผู้กำกับดูแล และผู้ปฏิบัติการเอาไว้ในองค์กรเดียวกัน ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาลและการจัดการที่ดี นอกจากนั้นองค์กรดังกล่าวยังเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติเป็นจำนวนเงินมากมายมหาศาล ปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาท
เป็นไงคาแรกเตอร์เจ้าบรรษัทพลังงานฯ ดูดีเชียว!! ถ้าผมไม่ได้ตามข่าวแล้วได้รับข้อมูลแค่นี้ผมก็คงจะเห็นดีเห็นงามด้วย แต่ช้าก่อน เมื่อข้อดีมีข้อเสียก็ต้องมีเช่นกัน
เมื่อเทียบข้อดีข้อเสียกันแล้ว ผมบอกตรงๆ ว่าผมรับข้อเสียไม่ได้ครับ!!
และเท่าที่ติดตามข่าวมาได้ซักระยะ มันทำให้ผมเริ่มสังเกตแนวทางการเคลื่อนไหวของพวกกลุ่มคนที่บอกว่ามาจากภาคประชาชน กลุ่มนี้มักจะคัดค้าน และทวงคืนแทบจะทุกอย่างที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับพลังงาน แล้วสุดท้ายพอรัฐถามว่าแล้วจะเอาไง? คนกลุ่มนี้ก็จะหงายการ์ดสร้างงานสร้างอาชีพให้ตนเอง จัดตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมาทันที
อย่างบรรษัทพลังงานเนี่ยถึงแม้ว่าจะมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน แต่มันก็มีหน่วยงานที่เค้าทำหน้าที่ดูแลตรงนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ จะจัดตั้งองค์กรมาใหม่เพื่อผลาญงบประมาณแผ่นดินกันตั้งเป็น 10,000 ล้านบาทมันคุ้มค่าแล้วหรือครับ? แล้วองค์กรเดิมที่เค้าทำหน้าที่นั้นเค้าทำผิดอะไร?
หรือเพียงแค่ว่าคนกลุ่มนี้ไม่พอใจที่ตัวเองไม่ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดอะไรซักกะอย่าง?
ขอเถอะครับ ทำของเก่าที่มันมีอยู่ให้มันดี ถ้ามันดีอยู่แล้วก็พัฒนาให้มันดียิ่งขึ้นๆ ไปอีก ผมในฐานะคนเสียภาษีผมก็อยากให้ภาษีของผมมันได้กระจายไปทั่วประเทศ ไปพัฒนาพื้นที่ทุรกันดาร ไปปรับปรุงโรงพยาบาลรัฐ ไปซื้อเครื่องมือรักษาคนป่วย เอาเงินไปเป็นเงินเดือนให้ครูสอนหนังสือเด็กให้เรียนดีดี
ดีกว่าเอาเงินมาจมอยู่กับบรรษัทพลังงานแห่งชาติแบบนี้”
จะเห็นว่าข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีข้อเสียของบรรษัทพลังงานแห่งชาติเกิดจากการศึกษาของธนาคารโลก ไม่ใช่ข้อมูลจากฝั่งใดฝั่งหนึ่ง หรือ Hate Speech อย่างกรณีคุณบุญยืน หนึ่งในแกนนำกลุ่ม คปพ. ที่เคยบอกว่า การที่กลุ่มนายทุนพลังงานบอกว่าบรรษัทพลังงานแห่งชาติไม่ดี นั่นแปลว่ามันต้องดีกับประชาชนแน่ …โดยส่วนตัวมองว่า การที่มีองค์กรใดองค์กรหนึ่งที่มีอำนาจมหาศาลในการตัดสินทุกอย่าง ยังไม่นับว่ากลุ่มคนที่พยายามเข้าไปนั่งไม่มีความรู้เรื่องพลังงานเลย น่าจะทำให้เกิดคอรัปชั่นมากกว่าระบบเดิมเสียอีก
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://pantip.com/topic/35308629