อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ CEO คนใหม่ กับวิสัยทัศน์ “PTT by PTT”

22105_18 (1)
หลังจากสถานการณ์การระบาด COVID-19 คลี่คลายลง ประเทศไทยถือว่าได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง รวมไปถึงวิถีชีวิตของผู้คน แน่นอนว่าองค์กรใหญ่อย่าง ปตท. ที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานของไทยต้องมีการปรับเปลี่ยนและขับเคลื่อนไปข้างหน้า และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในองค์กรเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา โดย ‘ คุณอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ’ ได้เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. คนที่ 10 อย่างเป็นทางการ ต่อจาก คุณชาญศิลป์ ตรีนุชกร โดยมีวาระการดำรงค์ตำแหน่ง 4 ปีนับจากนี้

หลังเข้ารับตำแหน่ง CEO คนใหม่ ‘ คุณอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ’ ได้เปิดวิสัยทัศน์ “PTT by PTT” หรือ Powering Thailand’s Transformation เพื่อให้ ปตท. เป็นองค์กรด้านพลังงานที่ยั่งยืนของประเทศไทย พร้อมขับเคลื่อนประเทศก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลง โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่อทุกภาคส่วน และพัฒนาสังคมคุณภาพชีวิตของคนไทย ซึ่งประกอบด้วย

Partnership and Platform เน้นการดำเนินธุรกิจและสร้างพันธมิตรของ ปตท. ให้เป็นแพลทฟอร์มมากกว่าการเป็นแค่ผู้ผลิตสินค้า โดยจะดึงดูดจากพันธมิตรที่มีความสามารถและความเชี่ยวชาญ ควบคู่ไปกับการร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ทั้งรัฐวิสาหกิจ เอกชน ผู้ประกอบการไทย และ SMEs ร่วมกันสร้าง New business model และ New ecosystem

         Technology for All สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสังคม ผ่านการใช้เทคโนโลยีในทุกมิติของการดำเนินงาน ผสานกับความรู้ด้านนวัตกรรมและดิจิทัล จากทั้งภายในและภายนอกองค์กร

         Transparency and Sustainability สร้างความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจพร้อมกับการพัฒนาธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน

นอกจากนี้กลุ่ม ปตท. ยังมีแนวคิดที่จะลดผลกระทบจากวิกฤตที่เกิดขึ้น ผ่านการจัดตั้ง PTT Group Vital Center เพื่อดูแลและวางแผนในการขับเคลื่อนไปข้างหน้าผ่านแนวคิด 4R’s ประกอบด้วย

        Resilience สร้างความยืดหยุ่นและปรับตัวในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อาทิ ความปลอดภัยของพนักงานภายในองค์กร ประเมิณสุขภาพขององค์กร จัดความสำคัญของโครงการลงทุน และการรักษาสภาพคล่องขององค์กร

        Restart เตรียมความพร้อมการนำธุรกิจ ทั้งพนักงาน ลูกค้าและคู่ค้า กลับสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุดและรักษาความสามารถทางการแข่งขันของกลุ่ม

            Reimagination เตรียมออกแบบธุรกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดเป็น Next normal ทั้งธุรกิจเดิมและ New S-Curve


Reform
พร้อมปฏิรูปปรับเปลี่ยนและจัดโครงสร้างองค์กรและธุรกิจ ให้สอดคล้องกับทิศทางในอนาคตพร้อมรองรับทุกสถานการณ์อันไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

และแม้ว่าผลกระทบจาก โควิด-19 ที่มีผลต่อราคาน้ำมันที่ตกต่ำ จะส่งผลให้การดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 จะขาดทุน และคาดว่าผลกระทบนี้จะส่งผลต่อไปถึงไตรมาสที่ 2 แต่คาดการว่าการดำเนินจะกลับมาเป็นบวกในไตรมาส 3-4 นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า กลุ่ม ปตท. ยังมีความสามารถในการลงทุนที่แข็งแกร่ง โดยในปี 2563 นี้ ยังศักยภาพในการลงทุนอยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาท และแผน 5 ปี อยู่ที่ 1.5 ล้านล้านบาท

         ทั้งนี้คุณอรรถพลยังกล่าวอีกว่า “ผมมีความมุ่งหวัง ที่จะทำให้กลุ่ม ปตท.เป็นองค์กรด้านพลังงานของประเทศไทย และเป็นแรงขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลง โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทุกภาคส่วน และยกระดับชีวิตของคนไทย ตามแนวคิด PTT Powering Thailand’s Transformation”

ขอบคุณข้อมูล : https://www.thebangkokinsight.com/355807/

Share This: